ภาษี หัก ณ ที่จ่าย
ถามวันที่ 21 มิ.ย. 2560 . ถามโดย nathanan_nan . เข้าชม 13 ครั้ง
ภาษี หัก ณ ที่จ่าย
ถามวันที่ 21 มิ.ย. 2560 . ถามโดย nathanan_nan . เข้าชม 13 ครั้ง
เรียน อาจารยูสุเทพที่เคารพ
บริษัทฯ เป็นนืตืบุคคลที่ประกอบกิจการประเภทงานด้านแอนิเมชั่น ผลิตภาพยนตร์โฆษณา และงานเกมส์ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยมีการรับจ้างทำงานต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับบริษัทฯ ก็มีการผลิตภาพยนตร์ของบริษัทฯ เองด้วย ซึ่งการผลิตภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง จึงทำให้ทางบริษัทฯ จำเป็นจะต้องหานักลงทุนมาลงทุนในภาพยนตร์ดังกล่าว โดยมีการทำสัญญาลงทุนว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนในอัตราตามที่ตกลงกัน
1อยากทราบว่าถ้าภาพยนตร์เสร็จสิ้นและจำหน่ายได้แล้ว ก็จะเหลือกำไรสำหรับภาพยนตร์ที่ผลิต และบริษัทฯ ก็จะต้องจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวให้นักลงทุนที่มีทั้งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จึงอยากทราบว่าการจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนทั้งสองประเภท จะต้องหัก ภาษี หัก ณ ที่จ่ายหรือไม่ และถ้าต้องจะต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่รยในอัตราเท่าไร และผู้รับจะต้องนำไปเสียภาษีด้วยใช่หรือไม่
2. การจ่ายค่าตอบแทนให้นักลงทุนดังกล่าวในแง่ของบริษัทฯ เอง จะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เองได้หรือไม่
บริษัทฯ เป็นนืตืบุคคลที่ประกอบกิจการประเภทงานด้านแอนิเมชั่น ผลิตภาพยนตร์โฆษณา และงานเกมส์ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยมีการรับจ้างทำงานต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับบริษัทฯ ก็มีการผลิตภาพยนตร์ของบริษัทฯ เองด้วย ซึ่งการผลิตภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง จึงทำให้ทางบริษัทฯ จำเป็นจะต้องหานักลงทุนมาลงทุนในภาพยนตร์ดังกล่าว โดยมีการทำสัญญาลงทุนว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนในอัตราตามที่ตกลงกัน
1อยากทราบว่าถ้าภาพยนตร์เสร็จสิ้นและจำหน่ายได้แล้ว ก็จะเหลือกำไรสำหรับภาพยนตร์ที่ผลิต และบริษัทฯ ก็จะต้องจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวให้นักลงทุนที่มีทั้งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จึงอยากทราบว่าการจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนทั้งสองประเภท จะต้องหัก ภาษี หัก ณ ที่จ่ายหรือไม่ และถ้าต้องจะต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่รยในอัตราเท่าไร และผู้รับจะต้องนำไปเสียภาษีด้วยใช่หรือไม่
2. การจ่ายค่าตอบแทนให้นักลงทุนดังกล่าวในแง่ของบริษัทฯ เอง จะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เองได้หรือไม่
1 คำตอบ
กรณีบริษัทฯ เป็นนืตืบุคคลที่ประกอบกิจการประเภทงานด้านแอนิเมชั่น ผลิตภาพยนตร์โฆษณา และงานเกมส์ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โดยมีการรับจ้างทำงานต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับบริษัทฯ ก็มีการผลิตภาพยนตร์ของบริษัทฯ เองด้วย ซึ่งการผลิตภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง จึงทำให้ทางบริษัทฯ จำเป็นจะต้องหานักลงทุนมาลงทุนในภาพยนตร์ดังกล่าว โดยมีการทำสัญญาลงทุนว่าจะจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนในอัตราตามที่ตกลงกัน นั้น
1. หากบริษัทฯ บันทึกเงินลงทุนของนักลงทุนเป็น "เงินกูยืม" เมื่อภาพยนตร์เสร็จสิ้นและจำหน่ายได้แล้ว ก็จะเหลือกำไรสำหรับภาพยนตร์ที่ผลิต และบริษัทฯ ก็จะต้องจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวให้นักลงทุนที่มีทั้งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับส่วนที่จ่ายเกินกว่าที่ลงทุน ย่อมถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
(1) กรณีผู้ลงทุนเป็นบุคคลธรรมดา ให้บริษัทฯ คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ของเงินได้ ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้มีเงินได้มีสิทธ้เลือกเสียภาษีเงินได้เท่าที่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ตามมาตรา 48 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
(2) กรณีผู้ลงทุนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตร 1% ของเงินได้ ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528
(3) กรณีผู้ลงทุนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 15%
2. การจ่ายค่าตอบแทนให้นักลงทุนดังกล่าวในแง่ของบริษัทฯ เอง จะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เองได้ เฉพาะส่วนที่จ่ายเกินกว่าเงินลงทุนเท่านั้น
1. หากบริษัทฯ บันทึกเงินลงทุนของนักลงทุนเป็น "เงินกูยืม" เมื่อภาพยนตร์เสร็จสิ้นและจำหน่ายได้แล้ว ก็จะเหลือกำไรสำหรับภาพยนตร์ที่ผลิต และบริษัทฯ ก็จะต้องจ่ายผลตอบแทนดังกล่าวให้นักลงทุนที่มีทั้งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับส่วนที่จ่ายเกินกว่าที่ลงทุน ย่อมถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
(1) กรณีผู้ลงทุนเป็นบุคคลธรรมดา ให้บริษัทฯ คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ของเงินได้ ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้มีเงินได้มีสิทธ้เลือกเสียภาษีเงินได้เท่าที่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ตามมาตรา 48 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
(2) กรณีผู้ลงทุนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตร 1% ของเงินได้ ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528
(3) กรณีผู้ลงทุนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 15%
2. การจ่ายค่าตอบแทนให้นักลงทุนดังกล่าวในแง่ของบริษัทฯ เอง จะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เองได้ เฉพาะส่วนที่จ่ายเกินกว่าเงินลงทุนเท่านั้น
ตอบเมื่อ 25 มิ.ย. 2560 . ตอบโดย อจ.สุเทพ