คูปองแทนเงินสด
วันที่ 7 ม.ค. 2562 . เรียบเรียงโดย wiwatc webmaster . เข้าชม 5 ครั้ง
คูปองแทนเงินสด
วันที่ 7 ม.ค. 2562 . เรียบเรียงโดย wiwatc webmaster . เข้าชม 5 ครั้ง
ศุกร์ 4 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 01:05 น.
คุณ Xiulan Yu "เพ็ญศรี"
เรียนถามอาจารย์ที่เคารพ
หากบริษัทฯ มีการมอบคูปองแทนเงินสด มีการสะสมแต้มเพื่อนำแต้มที่สะสมใช้แทนเงินสด ทั้งสองกรณีนี้ บริษัทฯ ต้องออกใบเสร็จเต็มตามมูลค่าบริการ ให้แก่ลูกค้าใช่หรือไม่คะ ส่วนคูปอง หรือแต้มที่ลูกค้านำมาใช้ ลงเป็นค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายจะได้ไหมคะ รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยค่ะ เนื่องจากลูกค้าต้องการใบเสร็จเต็มมูลค่า โดยมีความเห็นว่าคูปอง หรือแต้มที่นำมาใช้มีค่าเทียบเท่าเงินสด
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
คุณ Xiulan Yu "เพ็ญศรี"
เรียนถามอาจารย์ที่เคารพ
หากบริษัทฯ มีการมอบคูปองแทนเงินสด มีการสะสมแต้มเพื่อนำแต้มที่สะสมใช้แทนเงินสด ทั้งสองกรณีนี้ บริษัทฯ ต้องออกใบเสร็จเต็มตามมูลค่าบริการ ให้แก่ลูกค้าใช่หรือไม่คะ ส่วนคูปอง หรือแต้มที่ลูกค้านำมาใช้ ลงเป็นค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายจะได้ไหมคะ รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยค่ะ เนื่องจากลูกค้าต้องการใบเสร็จเต็มมูลค่า โดยมีความเห็นว่าคูปอง หรือแต้มที่นำมาใช้มีค่าเทียบเท่าเงินสด
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
1 คำตอบ
กรณีบริษัทฯ จัดรายการส่งเสริมการขาย โดย
1. มอบคูปองแทนเงินสด (ส่วนลด)
2. การสะสมแต้มเพื่อนำแต้มที่สะสมใช้แทนเงินสด
ทั้งสองกรณีดังกล่าว บริษัทฯ ไม่ต้องออกใบเสร็จเต็มตามมูลค่าบริการ ให้แก่ลูกค้า เนื่องจากเป็นรายจ่ายของบริษัทฯ จนกว่าจะมีการนำคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มเพียงแต่ต้องดำเนินการดังนี้
ประการแรก บริษัทฯ ต้องมีโปรแกรมช่วยจำว่า บริษัทฯ ได้มอบคูปองเงินสดไปเป็นจำนวนเท่าใด โดยยังไม่ต้องรับรู้รายจ่าย เพราะยังไม่เกิดภาระเป็นรายจ่ายอย่างแท้จริง
ประการที่สอง หากมีการมอบคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มที่จะนำมาใช้แทนเงินสด ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าไปขายต่อ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตรา 3% ของมูลค่าคูปองส่วนสด และนำส่งพร้อมทั้งยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 หรือ ภ.ง.ด.53 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป แล้วแต่กรณี
ประการที่สาม ต้องจำแนกได้ว่า คูปองที่มอบให้แก่ลูกค้านั้น บริษัทฯ จะ Treat เป็นส่วนลดการค้า เฉพาะรายการที่นำกลับมาซื้อสินค้าตามรายการที่กำหนด (Specific Goods) ให้ถือเป็นส่วนลดการค้า และหากนำมาใช้ในการซื้อสินค้าทั่วไปหรือเพื่อการลดหนี้ ให้ถือเป็นส่วนลดเงินสด
เมื่อลูกค้านำคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มมาใช้ในการซื้อสินค้า ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้บริษัทฯ รับรู้เป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ พร้อมกับบันทึกเป็นรายได้ ซึ่งจะเป็นรายการตรงกันข้ามกัน (Contra)
ผลในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม
ประการที่หนึ่ง หากมีเงื่อนไขให้นำมาใข้เป็น "ส่วนลดการค้า" (Trade Discount) บริษัทฯ ไม่ต้องนำส่วนลดการค้ามาถือรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 79 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
....หากเป็นการออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องแสดงส่วนลดการค้าให้เห็นชัดแจ้งในใบกำกับภาษี
....หากเป็นการออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการค้าปลีก บริษัทฯ จะแสดงส่วนลดการค้าดังกล่าวไว้ในใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยหรือไม่ก้ได้
ประการที่สอง หากมีเงื่อนไขให้นำมาใช้เป็นส่วนลดเงินสด (Cash Discount) บริษัทฯ ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่ขายทั้งจำนนวนก่อนหักส่วนลดเงินสดมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย
....ในประเด็นนี้ ถือว่าบริษัทฯ ได้รับคูปองเงินสดหรือหลักฐานการสะสมแต้ม จึงต้อวออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า โดยถือว่า คูปอง หรือแต้มที่นำมาใช้มีค่าเทียบเท่าเงินสด
ป.ล. อธิบายยากอยู่เหมือนกันนะ คิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ
1. มอบคูปองแทนเงินสด (ส่วนลด)
2. การสะสมแต้มเพื่อนำแต้มที่สะสมใช้แทนเงินสด
ทั้งสองกรณีดังกล่าว บริษัทฯ ไม่ต้องออกใบเสร็จเต็มตามมูลค่าบริการ ให้แก่ลูกค้า เนื่องจากเป็นรายจ่ายของบริษัทฯ จนกว่าจะมีการนำคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มเพียงแต่ต้องดำเนินการดังนี้
ประการแรก บริษัทฯ ต้องมีโปรแกรมช่วยจำว่า บริษัทฯ ได้มอบคูปองเงินสดไปเป็นจำนวนเท่าใด โดยยังไม่ต้องรับรู้รายจ่าย เพราะยังไม่เกิดภาระเป็นรายจ่ายอย่างแท้จริง
ประการที่สอง หากมีการมอบคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มที่จะนำมาใช้แทนเงินสด ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าไปขายต่อ บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตรา 3% ของมูลค่าคูปองส่วนสด และนำส่งพร้อมทั้งยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 หรือ ภ.ง.ด.53 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป แล้วแต่กรณี
ประการที่สาม ต้องจำแนกได้ว่า คูปองที่มอบให้แก่ลูกค้านั้น บริษัทฯ จะ Treat เป็นส่วนลดการค้า เฉพาะรายการที่นำกลับมาซื้อสินค้าตามรายการที่กำหนด (Specific Goods) ให้ถือเป็นส่วนลดการค้า และหากนำมาใช้ในการซื้อสินค้าทั่วไปหรือเพื่อการลดหนี้ ให้ถือเป็นส่วนลดเงินสด
เมื่อลูกค้านำคูปองหรือหลักฐานการสะสมแต้มมาใช้ในการซื้อสินค้า ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้บริษัทฯ รับรู้เป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ พร้อมกับบันทึกเป็นรายได้ ซึ่งจะเป็นรายการตรงกันข้ามกัน (Contra)
ผลในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม
ประการที่หนึ่ง หากมีเงื่อนไขให้นำมาใข้เป็น "ส่วนลดการค้า" (Trade Discount) บริษัทฯ ไม่ต้องนำส่วนลดการค้ามาถือรวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 79 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
....หากเป็นการออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องแสดงส่วนลดการค้าให้เห็นชัดแจ้งในใบกำกับภาษี
....หากเป็นการออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการค้าปลีก บริษัทฯ จะแสดงส่วนลดการค้าดังกล่าวไว้ในใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยหรือไม่ก้ได้
ประการที่สอง หากมีเงื่อนไขให้นำมาใช้เป็นส่วนลดเงินสด (Cash Discount) บริษัทฯ ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่ขายทั้งจำนนวนก่อนหักส่วนลดเงินสดมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย
....ในประเด็นนี้ ถือว่าบริษัทฯ ได้รับคูปองเงินสดหรือหลักฐานการสะสมแต้ม จึงต้อวออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า โดยถือว่า คูปอง หรือแต้มที่นำมาใช้มีค่าเทียบเท่าเงินสด
ป.ล. อธิบายยากอยู่เหมือนกันนะ คิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ
เมื่อ 7 ม.ค. 2562 . เรียบเรียงโดย wiwatc webmaster