ลดอัตราภาษีสำหรับค่าแรง และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับการลงทุนในสามจังหวัดชายแตน
บทความวันที่ 2 ก.ย. 2560 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 3076 ครั้ง
บทความวันที่ 2 ก.ย. 2560 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 3076 ครั้ง
ลดอัตราภาษีสำหรับค่าแรง และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
สำหรับการลงทุนในสามจังหวัดชายแตน
โดยที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
เฉพาะในท้องที่สามจังหวัด คือ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา โดยให้บุคลากรที่เป็นแรงงานฝีมือและผู้เชี่ยวชาญที่อยู่นอกเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจไปทํางานประจําในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
โดยการตราพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 628) พ.ศ. 2560 ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก
ณ ที่จ่าย สําหรับเงินได้ที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานในเขตดังกล่าว บางกรณี และยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
สําหรับเงินได้เป็นจํานวนสองเท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายจริงสําหรับการลงทุนในเขตดังกล่าว
บางกรณี จึงขอนำมากล่าวดังต่อไปนี้
1. การลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย
1.1 ให้ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ
ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 3 ของเงินได้
สําหรับเงินได้พึงประเมินที่ผู้มีเงินได้ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
เฉพาะในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี
และจังหวัดยะลา สําหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559
ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเมื่อคํานวณตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
(อัตราก้าวหน้า) แล้ว ผู้มีเงินได้ต้องเสียภาษีในอัตราสูงกว่าร้อยละ 3 ของเงินได้ เมื่อถึงกําหนดยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน
ได้รับยกเว้นไม่ต้องนําเงินได้พึงประเมินนั้นมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
ท้ังนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น
ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
และในกรณีผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวบางราย
ที่ยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
ในอัตราร้อยละ 3 ของเงินได้ ก็ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธิได้รับยกเว้นไม่ต้องนําเงินได้ดังกล่าวมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
ในกรณีที่ผู้มีเงินได้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา
40 (4) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร
ซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50
แห่งประมวลรัษฎากรไว้แล้ว และมีสิทธิเลือกเสียภาษีตามมาตรา 48 (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร
ผู้มีเงินได้จะมีสิทธิได้รับการยกเว้นดังกล่าว
เมื่อปรากฏว่าในการยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน
ผู้มีเงินได้มิได้นําเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร
และเงินได้พึงประเมินที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย มารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
โดยต้องไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืน
หรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ในการได้รับยกเว้นดังกล่าว
ผู้มีเงินได้ต้องยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนํามารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย
1.2 ผู้มีเงินได้ที่จะได้รับสิทธิดังกล่าว
ต้องมีคุณสมบัติและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
(1) เป็นแรงงานฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด
(2)
เป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานโดยมีระยะเวลาการทํางานไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
ในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (นายจ้าง) ซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขต
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงานในเขตดังกล่าว โดยนายจ้างนั้นได้แจ้งการจ้างลูกจ้างดังกล่าวต่อสํานักงานสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตดังกล่าวก่อนจ่ายเงินได้ให้ลูกจ้างครั้งแรกของการจ้างแรงงาน
ให้ได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ตั้งแต่วันที่สํานักงานสรรพากรพื้นที่ได้รับแจ้งจากนายจ้าง
(3) ก่อนเข้าทํางานกับนายจ้างตามข้อ
2 เป็นแห่งแรกนับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559 ผู้มีเงินได้ต้องมีภูมิลําเนาอยู่นอกเขต
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่ได้ทํางานอยู่ในเขต 3 จังหวัดดังกล่าว
หรือกรณีผู้มีเงินได้ได้ทํางานในเขต 3 จังหวัดดังกล่าว มาก่อนการเข้าทํางานกับนายจ้าง
จะต้องเป็นการเข้าทํางานเมื่อพ้นกําหนด 1 ปี นับแต่วันที่การจ้างงานในเขต 3
จังหวัดดังกล่าว ครั้งก่อนได้สิ้นสุดลง
(4) ในปีภาษีที่ผู้มีเงินได้ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้
ผู้มีเงินได้ต้องอยู่ในเขต 3 จังหวัดดังกล่าว ไม่น้อยกว่าหนึ่ง 180 วันในปีภาษีนั้น
โดยต้องมีหลักฐานการอยู่อาศัยที่ได้รับการรับรองจากนายจ้างหรือเจ้าของสถานที่ที่พักอาศัยและเก็บหลักฐานนั้นไว้เพื่อให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบ
(5)
กรณีประสงค์จะยกเลิกการใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้
ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตาม (๒)
แจ้งต่อสํานักงานสรรพากรพื้นที่ที่ได้แจ้งการจ้างลูกจ้างเพื่อขอใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้
(6) ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด
1.3 กรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด เกี่ยวกับการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่าย สำหรับการจ้างแรงงนนในปีภาษีใด
ให้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้เป็นอันระงับไปเฉพาะปีภาษีนั้น
2. การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
2.1 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่มีสถานประกอบกิจการอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจเฉพาะในท้องที่สามจังหวัดชายแดน
คือ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา เป็นจํานวนสองเท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายจริง
ดังนี้
(1) สําหรับเงินลงทุนในหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนซึ่งเป็นการเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นที่มีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจเท่านั้น
โดยไม่รวมถึงหุ้นบุริมสิทธิและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องนําเงินลงทุนไปใช้ในการประกอบกิจการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจเท่านั้น
คำว่า “สถานประกอบกิจการ” หมายความว่า สถานที่ซึ่งผู้ประกอบกิจการใช้ประกอบกิจการเป็นประจํา หรือสถานที่ซึ่งใช้เป็นที่ผลิตสินค้าเป็นประจํา
(2) สําหรับเงินลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีสถานประกอบกิจการตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจเท่านั้น
และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นนั้นต้องนําเงินลงทุนไปใช้ในการประกอบกิจการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจเท่านั้น
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว
ต้องไม่ขายหรือโอนหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ลงทุน
เว้นแต่ได้ขายหรือโอนหุ้นหรือการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ลงทุนโดยมีเหตุอันสมควรตามที่อธิบดีประกาศกําหนด
ทั้งนี้ ต้องเป็นการลงทุนตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2563 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด
2.2 กรณีไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด เกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
ให้สิทธิที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดลง
และให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนําเงินได้ที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้วมารวมคํานวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธินั้น