รายจ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา
บทความวันที่ 3 มิ.ย. 2560 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 14042 ครั้ง
บทความวันที่ 3 มิ.ย. 2560 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 14042 ครั้ง
รายจ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา
แนวคิด
โดยที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา โดยยกเว้นภาษีเงินได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
ให้แก่ผู้สนับสนุนการกีฬาที่ได้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการกีฬาจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย” หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย
และกรมพลศึกษา เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์กีฬาการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน
การจัดสร้างและพัฒนาสนามกีฬาหรือศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ
การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาหรือการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรด้านกีฬา
เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านการกีฬามากขึ้น ด้วยการตราพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 596) พ.ศ. 2559 ทั้งนี้ โดยให้ต่อเนื่องกับ
การยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบับที่ 596) พ.ศ. 2559
ให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
และภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับการบริจาคให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการกีฬาจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย” หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย
และกรมพลศึกษา เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์กีฬา การฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน
การจัดสร้างและพัฒนาสนามกีฬาหรือศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬา
หรือการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรด้านกีฬา ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559
ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ดังต่อไปนี้
1. สำหรับบุคคลธรรมดา
ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1)(2)(3)(4)(5)
หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาค
แต่เมื่อรวมกับเงินได้ที่ได้รับยกเว้นสำหรับการจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว
ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนนั้น
2.
สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค
ไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน
แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ
และรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น
สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการใดๆ
หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้ว
ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์
และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
หลักเกณฑ์ วิธิการ และเงื่อนไขสำหรับการบริจาค
อธิบดีกรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธิการ
และเงื่อนไขสำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬาตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสมป์
สำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559
ที่ผู้บริจาคจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค ตามมาตรา
3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 596)
พ.ศ. 2559 ทั้งนี้ โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ดังนี้
“ผู้รับบริจาค” ต้องเป็น การกีฬาแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกีฬาจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด
สมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย” หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย
และกรมพลศึกษา
กรณีผู้บริจาคมีหน้าทีเสียภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา
จะต้องบริจาคเป็นเงินเท่านั้น
กรณีผู้บริจาคเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาค
จะบริจาคเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือสินค้าก็ได้ กรณีบริจาคเป็นทรัพย์สินหรือสินค้า
ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
1.
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดหาทรัพย์สินหรือสินค้ามาเพื่อการบริจาคดังกล่าว
ต้องมีหลักฐานการได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือสินค้าที่ระบุจำนวนและมูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้านั้น
โดยให้ถือว่ามูลค่าตามหลักฐานดังกล่าว
เป็นมูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้าที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
2.
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบันทึกบัญชีทรัพย์สินที่จะนำมาบริจาคดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ให้ถือเอามูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือจากการคำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
เป็นมูลค่าของทรัพย์สินที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
3.
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อขายหรือเป็นผู้ขายสินค้าให้ถือเอามูลค่าต้นทุนของสินค้าดังกล่าวที่สามารถพิสูจน์ได้
เป็นมูลค่าของสินค้าที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
ผู้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่ผู้รับบริจาคดังกล่าวข้างต้น
จะต้องมีเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้จากผู้รับบริจาค
พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
1.
กรณีบริจาคเป็นเงิน ได้แก่ ใบเสร็จรับเงิน
หรือหลักฐานอื่นเป็นหนังสือที่ออกโดยผู้รับบริจาค เช่น หนังสือขอบคุณ
ใบประกาศเกียรติคุณ
ซึ่งหลักฐานดังกล่าวต้องระบุจำนวนเงินที่ได้บริจาคและสามารถพิสูจน์การรับบริจาคจากผู้บริจาคได้
โดยมีการรับรองอย่างชัดแจ้งจากผู้รับบริจาคว่าได้รับบริจาคจริง
2.
กรณีบริจาคเป็นทรัพย์สินหรือสินค้า ได้แก่ หลักฐานเป็นหนังสือที่ออกโดยผู้รับบริจาคที่พิสูจน์ได้ว่าได้บริจาคทรัพย์สินหรือสินค้าให้แก่ผู้รับบริจาค
เช่น หนังสือขอบคุณ
ใบประกาศเกียรติคุณซึ่งหลักฐานดังกล่าวได้ระบุมูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้านั้นตามหลักเกณฑ์ข้างต้น
บทสรุป
ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 596 พ.ศ. 2559 ยกเว้นภาษีเงินได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์
ให้แก่ผู้สนับสนุนการกีฬาที่ได้บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่การ
- การกีฬาแห่งประเทศไทย
- คณะกรรมการกีฬาจังหวัด
- สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด
- สมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย”
- กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย
และ
- กรมพลศึกษา
ทั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์กีฬาการฝึกซ้อมหรือการแข่งขัน
การจัดสร้างและพัฒนาสนามกีฬาหรือศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ
การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาหรือการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรด้านกีฬา
เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านการกีฬามากขึ้น โดยที่ผู้บริจาคจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นจำนวนสองเท่าของรายจ่ายที่บริจาค
ทั้งนี้ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ตามหลักเกณฑ์
วิธิการ และเงื่อนไขสำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬาตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสมป์
สำหรับการบริจาคเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการกีฬา ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559
มีข้อสังเกตว่า กรณีผู้บริจาคมีหน้าทีเสียภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา
จะต้องบริจาคเป็นเงินเท่านั้น ส่วนกรณีผู้บริจาคเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาค
จะบริจาคเป็นเงิน ทรัพย์สิน หรือสินค้าก็ได้ กรณีบริจาคเป็นทรัพย์สินหรือสินค้า
ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด และผู้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการบริจาคให้แก่ผู้รับบริจาคดังกล่าวข้างต้น
จะต้องมีเอกสารหลักฐานจากผู้รับบริจาค พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้ ใบเสร็จรับเงิน
หรือหลักฐานอื่นเป็นหนังสือที่ออกโดยผู้รับบริจาค เช่น หนังสือขอบคุณ
ใบประกาศเกียรติคุณ
ซึ่งหลักฐานดังกล่าวต้องระบุจำนวนเงินที่ได้บริจาคและสามารถพิสูจน์การรับบริจาคจากผู้บริจาคได้
โดยมีการรับรองอย่างชัดแจ้งจากผู้รับบริจาคว่าได้รับบริจาคจริง หรือระบุมูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้านั้นตามหลักเกณฑ์ข้างต้น
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้รยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน
หรือการขายสินค้า
หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่ผู้รับบริจาค และผู้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าวจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือที่ออกโดยผู้รับบริจาคที่พิสูจน์ได้ว่าได้บริจาคทรัพย์สินหรือสินค้าให้แก่ผู้รับบริจาค
เช่น หนังสือขอบคุณ ใบประกาศเกียรติคุณ
ซึ่งหลักฐานดังกล่าวได้ระบุมูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้านั้นตามหลักเกณฑ์ในข้อ 4
พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
ยิ่ง ครม. มีมติให้จัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติปีละ
2 ครั้ง ก็ยิ่งจำเป็นต้องขอรับบริจาคกันมากขึ้นละครับ
การใช้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายนี้ ก็ย่อมจะมีมากขึ้นเป็นลำดับครับ