ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากรณีเงินกินเปล่า
บทความวันที่ 27 ก.ค. 2559 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 12600 ครั้ง
บทความวันที่ 27 ก.ค. 2559 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 12600 ครั้ง
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากรณีเงินกินเปล่า
ขอนำประเด็นการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินกินเปล่า
เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือได้รับกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือน หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกับเงินกินเปล่า
จากการให้เช่าทรัพย์สิน ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งได้นำความตามประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า
เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 มาเป็นปุจฉา
– วิสัชนา ดังต่อไปนี้
ปุจฉา มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า
เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 อย่างไร
วิสัชนา ด้วยปรากฏว่า
มีบุคคลผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวนมาก (ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
และกองมรดก) ที่มีเงินได้หรือ ได้รับประโยชน์อย่างอื่นเนื่องจากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
เช่น นอกจากจะเรียกเก็บเงินค่าเช่าแล้ว ยังเรียกเก็บเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ
เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม หรือได้รับกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือน
หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน โดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น
เป็นระยะเวลานาน เช่น 3 ปี 10 ปี หรือ 30 ปี ซึ่งผู้ให้เช่าจะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้
แต่เนื่องจากผู้ให้เช่าต้องยอมให้ผู้เช่าได้เช่าอาคารหรือโรงเรือนเป็นระยะเวลานาน
ถ้าผู้ให้เช่าจะต้องรับภาระการเสียภาษีเงินได้จากจำนวนเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ
เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นทั้งหมดในปีเดียวกับที่ได้รับเงินหรือประโยชน์ดังกล่าวแล้ว
ก็ย่อมจะเป็นภาระหนักแก่ผู้ให้เช่ามิใช่น้อย
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เป็นบุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
และกองมรดก และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีเงินได้ดังกล่าว ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังกล่าวเสียภาษีโดยถูกต้องตามกฎหมาย
กระทรวงการคลังจึงขอเรียนให้ทราบว่า ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถเฉลี่ยเงินกินเปล่า
เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
และค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์นั้น ตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าได้
เช่น ผู้ให้เช่าได้รับเงินกินเปล่าในการให้เช่าอาคารเป็นเงิน 30,000,000 บาท
แต่ผู้ให้เช่าต้องผูกพันให้เช่าเป็นเวลา 30 ปี ดังนี้ ให้เฉลี่ยเงินกินเปล่าจำนวน
30,000,000 บาท นั้นออกเป็นรายปีจำนวน 30 ปี โดยผู้มีเงินได้ดังกล่าวจะมี
เงินได้ปีละ 1,000,000 บาท และผู้มีเงินได้ในกรณีนี้จะต้องยื่นรายการเงินได้ และชำระภาษีเงินได้จากเงินกินเปล่าที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าของทุกปีที่เฉลี่ย
ให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมินนั้น ทั้งนี้
ความตามประกาศดังกล่าวให้ใช้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ปีภาษี 2557
ซึ่งต้องยื่นรายการ ในปี 2558 เป็นต้นไป
ปุจฉา ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่
ป. 151/2558 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ได้วางแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำผู้เสียภาษีที่มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน
ซึ่งได้รับเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือได้รับกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือน หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
(เงินกินเปล่า) ให้ถูกต้อง ตรงตามเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การเสียภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินที่ได้รับเงินกินเปล่า
เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้าง เงินค่าซ่อมแซม
หรือค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ หรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยให้ใช้กับผู้มีเงินได้ประเภทใดบ้าง
วิสัชนา
ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าที่สามารถเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าได้
จะต้องเป็นผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ให้เช่าที่เป็นบุคคลธรรมดา
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
และกองมรดก (ข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558)
ปุจฉา มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเฉลี่ย
และการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินกินเปล่าหรือเงินได้อื่นในลักษณะทำนองเดียวกันอย่างไร
วิสัชนา
ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าตั้งแต่ปีภาษี 2557 เป็นต้นไป
โดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน อาคาร หรือโรงเรือนเป็นระยะเวลานาน เช่น 3 ปี 10 ปี หรือ 30 ปี จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้
ดังนี้ (ข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 151/2558)
1. นำเงินกินเปล่าที่ได้รับทั้งจำนวนไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
(ภ.ง.ด.90) และชำระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน
หรือ
2. นำเงินกินเปล่าไปเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า
แล้วยื่นแบบ แสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.93) และชำระภาษีเงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปี
ตามจำนวนปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ เมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีภาษี
ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้อง ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนที่ได้เฉลี่ยไว้ตามแบบ
ภ.ง.ด.93 ไปรวมคำนวณเพื่อ เสียภาษีเงินได้ แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ
ภ.ง.ด.93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษี
กรณีผู้มีเงินได้บางรายยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 ตามแนวทางดังกล่าว
เมื่อพ้นกำหนดเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ผู้มีเงินได้ยังคงสามารถขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าและยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 ได้ แต่ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ โดยให้คำนวณเงินเพิ่มเป็นรายปีภาษีตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่าเป็นต้นไป
ปุจฉา ในปี พ.ศ. 2557 นายแดงได้นำที่ดินของตนเองไปให้
บริษัท ดำ จากัด เช่าเพื่อสร้างห้างสรรพสินค้า สัญญาเช่ามีกำหนดเวลา 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ถึงปี พ.ศ. 2586 โดย นายแดงได้รับเงินกินเปล่าในวันที่ทำสัญญาเช่าเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท และได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 5 นายแดงมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไร
วิสัชนา กรณีดังกล่าว นายแดงมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามประกาศกระทรวงการคลังฯ
ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยนำเงินกินเปล่าจำนวน 30 ล้านบาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2557 ถึงปีภาษี 2586 จำนวน 30 ปี
คิดเป็นเงินได้พึงประเมินปีละ 1 ล้านบาท แล้วดำเนินการยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 จำนวน 30 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด
30 ปี เป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคม 2558 และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจาปีภาษี
2557 ถึงปีภาษี 2586
นายแดงมีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมาคำนวณภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา
โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ
ภ.ง.ด.93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น
ทั้งนี้ นายแดงมีสิทธินำภาษีเงินได้ที่ บริษัท ดำ จำกัด ได้หักไว้ ณ ที่จ่ายทั้งจำนวน
มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจาปีภาษี 2557 ได้ด้วย
หากนายแดงได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ ภ.ง.ด.93 จำนวน
30 ฉบับ ไปชำระล่าช้า
นายแดงจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5
ของภาษีที่ต้องชำระตามแบบ ภ.ง.ด.93 ทั้ง 30 ฉบับ และจะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สาหรับปีภาษี 2557 เพิ่มเติม โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนของปีภาษี 2557
ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ด้วย
ปุจฉา
มีแนวทางปฏิบัติ
สำหรับกรณีผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าก่อนปีภาษี 2557 อย่างไร
วิสัชนา
ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าก่อนปีภาษี
2557 โดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน อาคาร หรือโรงเรือนเป็นระยะเวลานาน เช่น 3 ปี 10 ปี หรือ 30 ปี จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้
ดังนี้ (ข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.
151/2558)
1. ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง ผู้มีเงินได้ จากการให้เช่าทรัพย์สินไม่ยื่นรายการเงินได้ให้ครบถ้วน
ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 โดยนำเงินกินเปล่าที่ได้รับทั้งจำนวนไปยื่นแบบ
ภ.ง.ด.90 และชำระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน
หรือนำเงินกินเปล่าไปเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 และชำระภาษีเงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ทั้งนี้ เมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีภาษี
ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนที่ได้เฉลี่ยไว้ตามแบบ
ภ.ง.ด.93 ไปรวมคำนวณ เพื่อเสียภาษีเงินได้ แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ
ภ.ง.ด.93 มาหักจากภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษี
2. กรณีผู้มีเงินได้มิได้ดำเนินการตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 แต่ต่อมาได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ
ภ.ง.ด. 93
โดยขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า และชำระภาษีเงินได้จาก
เงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเมื่อพ้นวันสิ้นปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ผู้มีเงินได้ยังคงสามารถขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าและยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 ได้ แต่ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ โดยให้คำนวณ
เงินเพิ่มเป็นรายปีภาษีตั้งแต่เดือนมกราคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่าเป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี หากเป็นการยื่นแบบ ภ.ง.ด.93
ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า ผู้มีเงินได้สามารถยื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอขยายกำหนดเวลาการยื่นรายการได้
ปุจฉา ในปี
พ.ศ. 2556 นายฟ้าได้นำที่ดินของตนเองไปให้ บริษัท เหลือง จากัด เช่าเพื่อสร้างอาคารโรงงาน
สัญญาเช่ามีกำหนดเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ถึงปี พ.ศ. 2565
โดยนายฟ้าได้รับเงินกินเปล่าในวันที่ทำสัญญาเช่าเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท นายฟ้ามีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไร
วิสัชนา
นายฟ้ามีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
ดังนี้
1. นำเงินกินเปล่าทั้งจำนวน 10 ล้านบาท ไปถือเป็นเงินได้พึงประเมินประจาปีภาษี 2556 แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 และชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมีนาคม
2557
หากนายฟ้าได้นำเงินกินเปล่าทั้งจำนวน
10 ล้านบาท ไปยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5
ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย เป็นจำนวน 2
เดือนภาษี (เมษายน - พฤษภาคม พ.ศ. 2557) หรือ
2. ขอใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลังฯ
ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 โดยนำเงินกินเปล่าจำนวน
10 ล้านบาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2556 ถึงปีภาษี 2565 จำนวน 10 ปี
คิดเป็นเงินได้พึงประเมินปีละ 1 ล้านบาท แล้วดำเนินการยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 จำนวน 10 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด
10 ปี เป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนธันวาคม 2556 และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจาปีภาษี
2556 ถึงปีภาษี 2565
นายฟ้ามีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด.93
มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น
หากนายฟ้าได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 จำนวน 10 ฉบับ ในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557
นายฟ้าจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5
ของภาษีที่ต้องชำระตามแบบ ภ.ง.ด.93 ทั้ง 10 ฉบับ เป็นจำนวน 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม พ.ศ. 2557) โดยนายฟ้ามีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 ต่ออธิบดีกรมสรรพากรได้
และเมื่อได้รับอนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นรายการตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว จะมีผลทำให้
นายฟ้าต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 0.75
ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย
อย่างไรก็ดี
หากนายฟ้าได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ ภ.ง.ด.93 จำนวน 10 ฉบับ ในวันที่ 16 ตุลาคม 2557
นายฟ้าจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5
ของภาษีที่ต้องชำระตามแบบ ภ.ง.ด.93 ทั้ง 10 ฉบับ เป็นจำนวน 10 เดือน (มกราคม – ตุลาคม พ.ศ. 2557) และจะต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2556 เพิ่มเติม
โดยนาเงินกินเปล่าตามส่วนของปีภาษี 2556 ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ด้วย
ปุจฉา
มีแนวทางปฏิบัติ
สำหรับกรณีผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าเป็นจำนวนหลายครั้ง อย่างไร
วิสัชนา กรณีผู้มีเงินได้ให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน
อาคาร หรือโรงเรือนเป็นระยะเวลานาน แล้วได้รับเงินกินเปล่าเป็นจำนวนหลายครั้ง เช่น
ให้เช่า 10 ปี แล้วได้รับเงินกินเปล่าในปีที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท ในปีที่ 3 จำนวน 1
ล้านบาท ผู้มีเงินได้จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้
ดังนี้ (ข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.
151/2558)
1. นำเงินกินเปล่าที่ได้รับทั้งจำนวนไปยื่นแบบ
ภ.ง.ด.90 และชำระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน
หรือ
2. นำเงินกินเปล่าไปเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า
แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 และชำระภาษีเงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ตามประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยให้เฉลี่ยเงินกินเปล่าตามจำนวนปีของอายุการเช่าที่เหลือ กล่าวคือ
ได้รับเงินกินเปล่าในปีที่ 1 จำนวน 1
ล้านบาท ให้เฉลี่ยเป็นจำนวน 10 ปี แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 จำนวน 10 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด
10 ปีภาษี ภายในเดือนมีนาคมของปีที่ 2
ส่วนเงินกินเปล่าที่ได้รับในปีที่ 3 จำนวน 1 ล้านบาท ให้เฉลี่ยเป็นจำนวน 8 ปี แล้วยื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 จำนวน 8 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด
8 ปีภาษีภายในเดือนมีนาคมของปีที่ 4
เป็นต้น
ปุจฉา แนวทางปฏิบัติ สำหรับกรณีผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าโดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน
อาคาร หรือโรงเรือน เป็นระยะเวลานาน
แต่สัญญาเช่าจะมีผลใช้บังคับเริ่มในปีอื่นที่มิใช่ปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน อย่างไร
วิสัชนา กรณีผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินกินเปล่าโดยยอมให้ผู้เช่าได้เช่าที่ดิน
อาคาร หรือโรงเรือน เป็นระยะเวลานาน
แต่สัญญาเช่าจะมีผลใช้บังคับเริ่มในปีอื่นที่มิใช่ปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน
จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปยื่นรายการและชำระภาษีเงินได้ ดังนี้ (ข้อ 5 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่
ป. 151/2558)
1. นำเงินกินเปล่าที่ได้รับทั้งจำนวนไปยื่นแบบ
ภ.ง.ด.90 และชำระภาษีภายใน
เดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินได้พึงประเมิน หรือ
2. นำเงินกินเปล่าไปเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า
และยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 สำหรับปีที่สัญญาเช่าเริ่มมีผลใช้บังคับจนถึงปีที่ครบอายุสัญญาเช่า
และชำระภาษีเงินได้จากเงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาในแต่ละปีภาษี
ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 โดยนำเงินกินเปล่าตามส่วนที่ได้เฉลี่ยไว้ในแต่ละปีไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด.93
มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษี
กรณีผู้มีเงินได้มิได้ดำเนินการตาม
5.1 และ 5.2 แต่ต่อมาได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 โดยขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า
และชำระภาษีเงินได้จาก เงินได้ที่เฉลี่ยเป็นรายปีตามจำนวนปีของอายุการเช่าเมื่อพ้นกำหนดเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่า
ผู้มีเงินได้ยังคงสามารถขอเฉลี่ยเงินกินเปล่าตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าและ
ยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 ได้ แต่ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษี ที่ต้องชำระ โดยให้คำนวณเงินเพิ่มเป็นรายปีภาษีตั้งแต่เดือนเมษายนของปีถัดจากปีที่ได้รับเงินกินเปล่าเป็นต้นไป
ปุจฉา
ในปี
พ.ศ. 2558 นายเขียวได้นำที่ดินของตนเองไปให้ บริษัท ขาว จำกัด เช่าโดยทำสัญญาเช่ามีกำหนดเวลา
3 ปี สัญญาเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560
ถึงปี พ.ศ. 2562 โดยได้รับเงินกินเปล่าจากการทำสัญญาเช่าในวันที่ทำสัญญาเช่าเป็นเงินจำนวน
3 ล้านบาท นายเขียวมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไร
วิสัชนา
กรณีดังกล่าวนายเขียวมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังนี้
1. นำเงินกินเปล่าทั้งจำนวน 3 ล้านบาท ไปถือเป็นเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี 2558 แล้วยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 และชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมีนาคม
พ.ศ. 2559
2. ขอใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลังฯ
ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยนำเงินกินเปล่าจำนวน
3 ล้านบาท ไปเฉลี่ยเป็นเงินได้พึงประเมินของปีภาษี 2560 ถึงปีภาษี 2562 คิดเป็นเงินได้พึงประเมินปีละ 1 ล้านบาท แล้วดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด.93 จำนวน 3 ฉบับ และชำระภาษีเงินได้ของแต่ละปีภาษีทั้งหมด 3 ปี
เป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559
และเมื่อถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจาปีภาษี 2560 ถึงปีภาษี 2562 นายเขียวมีหน้าที่ต้องนำเงินกินเปล่าดังกล่าวมายื่นแบบ
ภ.ง.ด.90 แล้วนำจำนวนภาษีที่ได้เสียไว้ตามแบบ ภ.ง.ด.93 มาหักจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณได้ในแต่ละปีภาษีนั้น
หากนายเขียวได้นำเงินกินเปล่ามายื่นแบบ
ภ.ง.ด.93 จำนวน 3 ฉบับ ในวันที่ 31 มีนาคม 2560
นายแดงจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5
ของภาษีที่ต้องชำระตามแบบ ภ.ง.ด.93