ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ

บทความวันที่ 30 ต.ค. 2559  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 78137 ครั้ง

รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ


     ตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 51) พ.ศ. 2562 ให้ใช้บังคับกับการคำนวณกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มใน หรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้หักได้ในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการกีฬาตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้หักได้อีกในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ ดังนี้ 

      มาตรา 65 ตรี รายการต่อไปนี้ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ 

          (3) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เว้นแต่ 

              (ก) รายจ่ายซึ่งเป็นเงินที่บริจาคแก่พรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้หักได้ไม่เกินห้าหมื่นบาท ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด 

(ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 358) ) 

              (ข) รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ให้หักได้ในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีให้หักได้อีกในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ 

(ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 44) ประกอบ)  

(ดู ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 444) ประกอบ)  

 

     จากบทบัญญัติมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร อาจแยกพิจารณารายจ่ายการกุศลได้ดังนี้

     1. รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการกุศล แบ่งเป็น

          1.1 รายจ่ายเพื่อการกุศลทั่วไปที่มิใช่รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์

          1.2 รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์

          1.3 รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา


     2. รายจ่ายเพื่อการกุศลทั่วไป ที่มิใช่รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์หมายถึง รายจ่ายค่าการกุศล คือ รายจ่ายที่กิจการได้จ่ายไปเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น อาทิ การให้ทาน การช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ การช่วยเหลือเกื้อกูลแก่บุคคลทั่วไป การช่วยงานศพ งานบวช ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร


     3. รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์

          3.1 รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ ได้แก่ รายจ่ายในการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินที่จ่ายให้แก่หรือเพื่อกิจการดังต่อไปนี้

               (1) รัฐบาล

               (2) กระทรวง ทบวง กรม เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นรัฐวิสาหกิจที่มิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

                    การบริจาคเงินให้กรุงเทพมหานครเนื่องในดอกาสจัดนิทรรศการการทางการแพทย์และอนามัย เป็นการบริจาคเพื่อการกุศลสาธารณะตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/2015 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2520) 

                    บริษัทฯ ผลิตโทรทัศน์ บริจาคเครื่องรับโทรทัศน์ให้แก่กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อมอบให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปติดตั้งที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการกุศลสาธารณะ (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0802/5234 ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2529) 

                    ยกที่ดินให้แก่ทางราชการเพื่อจัดสร้างสวนสาธารณะ ถือเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลสาธารณะตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/1855 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2521)

              (3) โรงพยาบาลของรัฐบาล หรือโรงพยาบาลขององค์การของรัฐบาล

              (4) สภากาชาดไทย

              (5) วัดวาอาราม

                   บริจาคเงินให้แก่โบสถ์คริสต์ ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/2040 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525)

              (6) มูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด ให้เป็นองค์การสาธารณกุศล ตามมาตรา 47 (7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร

                    การที่บริษัทฯ บริจาคเงินให้แก่สมาคม ไม่ถือว่าเป็นกิจการบริจาคเพื่อการกุศลสาธารณะ เพราะสมาคมจัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ของกลุ่มสมาชิกของตนเท่านั้น ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ถ้าบริจาคให้แก่สมาคมต่อต้านโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย ถือเป็นรายจ่ายได้ร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิ (ปัจจุบันเพิ่มเป็นร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ) (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/6939 ลงวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2515) 

                    ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีรายชื่ออยู่ในเวบไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/publish/29157.0.html หรือไม่ก็ตาม แต่ถ้ามีก็นับว่าปลอดภัยกว่า หรือแน่นอกว่า เพราะไม่ต้องพิสูจน์ความเป็นองค์การกุศลสาธารณะของหน่วยงานที่รับบริจาค นอกจากนี้รายชื่อองค์การกุศลดังกล่าว เป็นรายชื่อมูลนิธื สมาคม องค์การสาธารณกุศลที่บุคคลธรรมดาบริจาคแล้วสามารถนำเงินบริจาคมาหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากร เท่านั้น

               (7) องค์การสาธารณกุศลอื่นๆ เช่น กิจการแพทย์หลวง (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/11050 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2519) องค์การยูนิเซฟ (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0802/10858 ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2527)

          3.2 รายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายให้แก่หรือเพื่อกิจการดังต่อไปนี้

               (1) การส่งเสริม อนุรักษ์ และรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนปละคุ้มครองสัตว์ป่า

               (2) การคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ

               (3) การคุ้มครองและรักษาป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ

               (4) การส่งเสริม คุ้มครอง และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม และรักษาคุณภาพคุณภาพสิ่งแวดล้อม

               (5) การควบคุม ป้องกัน แก้ไข ตลอดจนการลดและขจัดอันตรายอันเกิดจากการแพร่กระจายของมลพิษหรือภาวะมลพิษและของเสียอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

               (6) กองทุนสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

               (7) การบูรณะโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 68) ใช้บังคับ 1 สิงหาคม 2540 เป็นต้นไป)
               (8) การก่อสร้างถนนและได้โอนกรรมสิทธิให้แก่ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐบาลโดยไม่มีค่าตอบแทน ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ส่วนราชการหรือองค์การของรัฐบาลผู้รับโอนได้ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในงานดังกล่าว
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 85) ใช้บังคับ 1 สิงหาคม 2543 เป็นต้นไป)
               (9) การบริจาคทรัพย์สินหรือสินค้าให้แก่ส่วนราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือภัยธรรมชาติในลักษณะทำนองเดียวกัน
               (10) การบริจาคทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการให้แก่ ส่วนราชการ เพื่อบริจาคให้แก่ สถานศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้น ในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษ แห่งสหประชาชาติ หรือสถาบันอุดมศึกษาซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษา ที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศอนุมัติโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 29/2560 เรื่อง การส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ลงวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2560 หรือโรงเรียนเอกชนตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 444)ฯ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป)
               (11) การส่งเสริมการแสดงกิจกรรมหรือผลงานสิ่งประดิษฐ์ และการจัดนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้แก่หน่วยงานภายใต้การบริหารกิจการขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 312) ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2560)
                          ทั้งนี้ รายจ่ายตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นการจ่ายให้แก่กิจการตามโครงการพระราชดำริ หรือของทางราชการ หรือองค์การของรัฐบาล หรือองค์การกุศลสาธารณะที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพกร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 68) ใช้บังคับ 1 สิงหาคม 2540 เป็นต้นไป)

              ทั้งนี้ รายจ่ายตาม (1) ถึง (11) ต้องเป็นรายจ่ายที่จ่ายให้แก่กิจการตามโครงการพระราชดำริ หรือของทางราชการ หรือองค์การของรัฐบาล หรือองค์การกุศลสาธารณะที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร (ข้อ 1 แห่งประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 44))


     4. รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา

          4.1 รายจ่ายเพื่อการศึกษา ได้แก่ รายจ่ายในการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินที่จ่ายให้แก่หรือเพื่อกิจการ ดังต่อไปนี้

               (1) สถานศึกษา หอสมุดหรือห้องสมุด หรือสถาบันวิจัย ทั้งนี้ เฉพาะของทางราชการ

               (2) การให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นการทั่วไป

               (3) กระทรวง ทบวง กรม เทศบาล สุขาภิบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่นเพื่อสร้างสถานศึกษา หอสมุด หรือห้องสมุดของทางราชการ

               (4) สถานศึกษาที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น และสถานศึกษาที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (เพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีฯ เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 54) ใช้บังคับตั้งแต่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 เป็นต้นไป)

          4.2 รายจ่ายเพื่อการกีฬา

               (1) การกีฬาแห่งประเทศไทย

               (2) คณะกรรมการกีฬาจังหวัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมกีฬาจังหวัด

               (3) กรมพลศึกษา เพื่อการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน

               (4) สมาคมกีฬาสมัครเล่นที่ได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (เพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีฯ เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 46) ใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นต้นไป)

              บริษัทจ่ายเงินเป็นค่าโฆษณา โดยวิธีการมอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี และมีความประพฤติดีในโรงเรียนต่างๆ การให้ทุนการศึกษาดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการโฆษณาบริษัทฯ จะนำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างไรก็ตามถ้าการให้ทุนการศึกษานั้น บริษัทฯ ได้ให้กับสถานศึกษาหรือองค์การกุศลสาธารณะตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ก็เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ บริษัทฯ ย่อมนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร  (หนังสือกรมสรรพากรที่ กค 0804/4650 ลงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2518)


     5. ในรอบระยะเวลาบัญชีปีที่ผลประกอบการปรากฏเป็นกำไรสุทธิทางภาษีอากร โดยมีรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แต่เพียงรายการเดียว ให้ปรับปรุงบวกกลับรายจ่ายดังกล่าว ผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แล้วแต่กรณี 

        เนื่องจากรายการรายจ่ายแต่ละรายการดังกล่าว สามารถนำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิเท่านั้น กล่าวคือ กำไรสุทธิหลังจากหักรายการรายจายดังกล่าว ย่อมคงเหลือเป็นกำไรสุทธิ 100% รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แต่ละรายการคิดเป็น 2% ของกำไรสุทธิ กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา จึงคิดเป็น 102% ของกำไรสุทธิ 

        ดังนั้น เมื่อกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ซึ่งมีฐานเป็นอัตรา 102% ของกำไรสุทธิ 

        -    รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ จึงคิดเป็น 2/102 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ 

        -    รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา จึงคิดเป็น 2/102 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา 


     6. ในรอบระยะเวลาบัญชีปีที่ผลประกอบการปรากฏเป็นกำไรสุทธิทางภาษีอากร โดยกิจการมีทั้งรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ให้ปรับปรุงบวกกลับรายการรายจ่ายทั้งสองรายการดังกล่าว ผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แล้วแต่กรณี 

        เนื่องจากรายการรายจ่ายแต่ละรายการดังกล่าว สามารถนำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิเท่านั้น กล่าวคือ กำไรสุทธิหลังจากหักรายการรายจายดังกล่าว ย่อมคงเหลือเป็นกำไรสุทธิ 100% รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แต่ละรายการคิดเป็น 2% ของกำไรสุทธิ กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา จึงคิดเป็น 104% ของกำไรสุทธิ     ดังนั้น เมื่อกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา ซึ่งมีฐานเป็นอัตรา 104% ของกำไรสุทธิ  

        -    รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ จึงคิดเป็น 2/104 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณ หรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา 

        -    รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา จึงคิดเป็น 2/104 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา


     7. สรุป เงื่อนไขเกี่ยวกับการนำรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือรายจ่ายเพื่อสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา

          รายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศล หรือรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา หรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา ให้หักได้อีกไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ

          (1) ในกรณีที่กิจการมีผลขาดทุนสุทธิทางภาษีอากร จะนำรายจ่ายดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายไม่ได้

          (2) ในกรณีที่กิจการมีผลกำไรสุทธิทางภาษีอากร และมีรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลหรือรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ เกินกว่าร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา หรือมีแต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ

   รายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ = กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ x 2/102 

           (3) ในกรณีที่กิจการมีผลกำไรสุทธิทางภาษีอากร และมีรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬา เกินกว่าร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศล หรือรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ หรือมีแต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ

  รายจ่ายเพื่อการศึกษา/การกีฬา = กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ x 2/102

          (4) ในกรณีที่กิจการมีผลกำไรสุทธิทางภาษีอากร และทั้งรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลหรือรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา หรือรายจ่ายเพื่อการกีฬาเกินกว่าร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ 

            - รายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ  = กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา/การกีฬา x 2/104  

            - รายจ่ายเพื่อการศึกษา/การกีฬา = กำไรก่อนหักรายจ่ายเพื่อการสาธารณกุศลฯ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา/การกีฬา x 2/104 

 

 (แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567)