เงินได้ค่าเช่าจากสิทธิเก็บกิน บางกรณี
บทความวันที่ 31 ธ.ค. 2565 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 669 ครั้ง
บทความวันที่ 31 ธ.ค. 2565 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 669 ครั้ง
เงินได้ค่าเช่าจากสิทธิเก็บกิน บางกรณี
1. สิทธิเก็บกิน
“สิทธิเก็บกิน” หมายถึง
กรณีเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น
มาขอจดทะเบียนสิทธิเก็บกินในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นให้แก่บุคคลอื่น
ให้เป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกิน โดยมีสิทธิครอบครองใช้ และถือเอาประโยชน์ในที่ดิน
หรืออสังหาริมทรัพย์สินนั้น ตามมาตรา 1417 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทั้งหมด
ไม่ว่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นนั้นจะมีผู้ถือกรรมสิทธิ์คนเดียวหรือหลายคน
แต่ทุกคนยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทรงสิทธิด้วยกันทั้งหมด
“สิทธิเก็บกิน” คือ
ทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งที่เจ้าของยังคงมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อยู่
เพียงแต่ยอมให้ผู้ทรงสิทธิเก็บกินเข้ามาครอบครอง
ใช้ประโยชน์และถือเอาซึ่งประโยชน์แห่งทรัพย์สิน
ตลอดจนมีอํานาจจัดการทรัพย์สินนั้นได้ดังนั้น หากเจ้าของที่ดินต้องการที่จะจดทะเบียนสิทธิเก็บกินให้ผู้ใดเป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกินก็ชอบที่จะกระทําได้
โดยไปยื่นคําขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ
สํานักงานที่ดินท้องที่ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่
และเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสิทธิเก็บกินแล้ว
ย่อมมีผลทําให้ผู้ทรงสิทธิเก็บกินสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้แต่ต้องไม่เกินไปกว่าสิทธิที่ตนเองมีอยู่
การสิ้นสุดลงของสิทธิเก็บกินตามมาตรา 1418
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“มาตรา 1418 สิทธิเก็บกินนั้น
จะก่อให้เกิดโดยมีกำหนดเวลา หรือตลอดชีวิตแห่งผู้ทรงสิทธิก็ได้
ถ้าไม่มีกำหนดเวลา
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสิทธิเก็บกินมีอยู่ตลอดชีวิตผู้ทรงสิทธิ
ถ้ามีกำหนดเวลา ท่านให้นำบทบัญญัติมาตรา 1403
วรรค 3 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ถ้าผู้ทรงสิทธิเก็บกินถึงแก่ความตาย
ท่านว่าสิทธินั้นย่อมสิ้นไปเสมอ”
2.
ตามมาตรา 57 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ได้บัญญัติเกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ถือแก่ความตายระหว่างปีภาษีดังนี้
“มาตรา 57 ทวิ
ถ้าผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง
ถึงแก่ความตายเสียก่อนที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง
หรือก่อนที่ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ได้ปฏิบัติตามมาตรา 57
ให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดก หรือทายาท หรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดกแล้วแต่กรณี
ปฏิบัติแทน และโดยเฉพาะในการยื่นรายการเงินได้พึงประเมินของผู้ตายนั้น
ให้รวมเงินได้พึงประเมินของผู้ตายและของกองมรดกที่ได้รับตลอดปีภาษีที่ผู้นั้นถึงแก่ความตายเป็นยอดเงินได้พึงประเมินที่จะต้องยื่น
สำหรับในปีต่อไป
ถ้ากองมรดกของผู้ตายยังมิได้แบ่งและมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกินจำนวนตามมาตรา
56 (1) ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทหรือผู้ครอบครอง ทรัพย์มรดก แล้วแต่กรณี
มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติในส่วนนี้ในชื่อกองมรดกของผู้ตาย”
จากบทบัญญัติอาจแยกพิจารณาได้ดังนี้
2.1 กรณีผู้มีเงินได้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
ให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดก หรือทายาท หรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดกแล้วแต่กรณี
ปฏิบัติหน้าที่ในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในนามของผู้ถึงแก่ความตายดังกล่าว
2.2
โดยเฉพาะในการยื่นรายการเงินได้พึงประเมินของผู้ตายในระหว่างปีภาษีที่ถึงแก่ความตายนั้น
ให้รวมเงินได้พึงประเมินของผู้ตาย (ก่อนที่จะถึงแก่ควายตาย)
และเงินได้ของกองมรดกที่ยังไม่ได้แก่ที่ได้รับตลอดปีภาษีที่เจ้ามรดกนั้นถึงแก่ความตายเป็นยอดเงินได้พึงประเมินที่จะต้องยื่น
ภ.ง.ด.90
2.3 สำหรับในปีต่อไป ถ้ากองมรดกของผู้ตายยังมิได้แบ่ง
และมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกิน 60,000 บาท ตามมาตรา 56
(1) แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทหรือผู้ครอบครอง ทรัพย์มรดก
แล้วแต่กรณี มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติในส่วนนี้ในชื่อกองมรดกของผู้ตาย
ตัวอย่าง
กรณี นาง ก. เป็นผู้ถือครองในกรรมสิทธิ์ที่ดินแห่งหนึ่ง และได้ยกสิทธิ์เก็บกินในที่ดินดังกล่าวให้แก่ นาง ข. ซึ่งมีฐานะเป็นมารดา
นาง ข มารดาของนาง ก นำที่ดินที่นาง ก ยกสิทธิเก็บกินออกให้บริษัท เอ เช่า มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 100,000.00 บาท (จ่ายเป็นรายเดือน)
ต่อมา นาง ข. ได้เสียชีวิตลงในเดือน เมษายน พ.ศ. 2565 และบริษัท เอ ยังคงดำเนินการจ่ายค่าเช่าที่ดินดังกล่าวตามสัญญาให้แก่ นาง ข. ตลอดปี พ.ศ. 2565 นั้น มีภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเกี่ยวกับสิทธิเก็บกินดังนี้
1. ช่วงระยะเวลาก่อนที่นาง ข. จะถึงแก่ความตายนั้น
เงินได้ค่าเช่าตกเป็นสิทธิของนาง ข ตามสิทธิเก็บกิน เงินได้ในส่วนนี้
ต้องยื่นรายการ และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในนามของนาง ข
ทั้งกรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี ตามแบบ ภ.ง.ด.94 (สำหรับค่าเช่าระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่นาง ข ถึงแก่ความตาย และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ตามแบบ ภ.ง.ด.90
2. ช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันถัดจากวันที่นาง ข ถึงแก่ความตาย
ค่าเช่าต้องกลับคืนไปเป็นของนาง ก เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยปริยาย
นาง ก พึงต้องแจ้งให้บริษัท เอ ผู้เช่าคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ
ที่จ่ายเสียใหม่ให้ถูกต้อง