ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคล
บทความวันที่ 16 มี.ค. 2563 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 5999 ครั้ง
บทความวันที่ 16 มี.ค. 2563 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 5999 ครั้ง
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคล
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคลที่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้
200% แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
ประเภทแรก In-house Training (สถานฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้างภายในกิจการ)
ซึ่งอาจดำเนินการโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นๆ หรือจะว่าจ้างบริษัทที่รับจัดการฝึกอบรมก็ได้
ซึ่งอาจเป็นบริษัทที่รับจัดการฝึกอบรมทั่วไป
หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกันตามนิยามศัพท์คำว่า “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน”
ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้
1.1 “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีความสัมพันธ์กันในลักษณะดังต่อไปนี้
(1)
ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่ง
เป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
(2)
ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมด
ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมด
(3)
นิติบุคคลหนึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมด
หรือ
(4)
บุคคลเกินกว่ากึ่งจำนวนกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในนิติบุคคลหนึ่ง
เป็นกรรมการหรือเป็นผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
ทั้งนี้ การประกอบกิจการสถานฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้างของตนหรือของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน
(In-house Training) จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา
4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 284) พ.ศ. 2538
1.2 ทั้งกรณีดำเนินกิจการสถานฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้าง
(In-house Training) ของตนเอง หรือจัดการโดยบริษัทในเครือเดียวกัน
หรือบริษัทภายนอกทั่วไป บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการฝึกอบรมจะได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ตามมาตรา 4 (2) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 148)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้
ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ดังนี้
(1) หลักสูตรที่ใช้ฝึกอบรมลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ต้องเป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้าง
และได้รับการรับรองจากกระทรวงแรงงานและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมลูกจ้างแต่ละคนนั้นต้องเป็นไปตามอัตราที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงแรงงาน
(ข้อ 2)
(2) การฝึกอบรมตาม (1)
ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นนายจ้างนั้น
(ข้อ 3)
(3) ลูกจ้างที่เข้ารับการฝึกอบรมตาม (1)
ต้องเป็นลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องจัดทำทะเบียนลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานเพื่อเป็นหลักฐานการทำงานของลูกจ้าง
(ข้อ 4)
(4) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานลูกจ้างของตน
ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขให้ลูกจ้างที่เข้ารับการฝึกอบรมนั้นกลับเข้าทำงานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นหลังจากการฝึกอบรมเสร็จสิ้น
(ข้อ 5)
(5) วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะใช้ในการฝึกอบรมตาม (1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ต้องกำหนดลักษณะ ขนาด
และคุณสมบัติของวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อมิให้ปะปนกับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบกิจการตามปกติของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
(ข้อ 6)
ประเภทที่ 2 Public Training (สถานฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานสาธารณะทั่วไป)
ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นได้ส่งลูกจ้างของตนเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นหรือที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
ได้แก่ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่รับลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม
2.1 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมนั้น
ตามมาตรา 4 (1) แห่งแห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 โดยใช้เพียงหลักฐานการจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบกิจการ
Public Training เท่านั้น ไม่ต้องขออนุมัติใดๆ ทั้งสิ้น
2.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (ข้อ 2)
(1)
สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่จะให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นสถานศึกษา
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานเฉพาะที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ สมาคม
บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ (ข้อ 3)
และ
(2) การให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นการศึกษาหรือฝึกอบรมในประเทศไทยเพื่อพัฒนาคุณภาพ
ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ฝีมือของลูกจ้างให้สูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นนายจ้าง
(ข้อ 4) และ
(3) หลักสูตรที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตาม (1) ใช้ในการให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ต้องมีลักษณะ ดังนี้ (ข้อ 5)
(ก) กรณีสถานศึกษา
1)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าอุดมศึกษา
หรือ
2)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
หรือ
3)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับโรงเรียนนอกระบบ
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือ
4)
ต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป (Public Training) ตามหลักสูตรที่สถานศึกษานั้น ๆ ได้จัดขึ้น
(ข) กรณีสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป
(Public Training) และ
(4) ค่าใช้จ่ายที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตาม
(1) เพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม (ข้อ 6) ประกอบด้วย
(ก) ค่าใช้จ่ายการศึกษาที่เป็นค่าเล่าเรียน
ค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุง
(ข)
ค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมที่เป็นค่าธรรมเนียมเข้าอบรมหรือค่าลงทะเบียน
ค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมดังกล่าว
ให้หมายความรวมถึง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทางเพื่อเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม
และค่าใช้จ่ายในการดูงานในประเทศหรือต่างประเทศตามที่กำหนดในหลักสูตร (ถ้ามี)
ที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตาม (1)
เรียกเก็บจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลด้วย และ
(5) ค่าใช้จ่ายตาม (4)
ต้องมีใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตาม (1)
ที่ออกให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม
เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
กรณีใบเสร็จรับเงินค่าใช้จ่ายการศึกษาตามวรรคหนึ่งที่ได้ออกให้ลูกจ้างซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นส่งเข้ารับการศึกษา
ก็ให้ใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นได้ด้วย
(ข้อ 7) และ
(6) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตาม
(4) โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้
พร้อมแนบรายละเอียดและกำหนดการฝึกอบรมในหลักสูตรนั้นเก็บไว้ ณ
สถานประกอบการเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงาน
(ข้อ 8) และ
(7) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องมีการกำหนดเงื่อนไขให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น หลังจากสำเร็จการศึกษาหรือผ่านการฝึกอบรมแล้ว (ข้อ 9)
อนึ่ง กรณีที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น จะไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ 2 เท่า หรือ 200% ของรายจ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน