ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การกระทบยอดรายได้ ภ.ง.ด.50 กับยอดขาย ตาม ภ.พ.30

บทความวันที่ 22 ธ.ค. 2562  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 43353 ครั้ง

การกระทบยอดรายได้ ภ.ง.ด.50 กับยอดขาย ตาม ภ.พ.30 


         แนวคิดของการกระทบยอดรายได้ ภ.ง.ด.50 กับยอดขาย ตาม ภ.พ.30 ก็เหมือนกับการกระทบยอดบัญชีเงินฝากธนาคารนั่นเอง เพียงแต่ต้องพิจารณาจากทั้งสองด้านประกอบกัน กล่าวโดยสรุปความแตกต่างของยอดรายได้ ภ.ง.ด.50 กับยอดขาย ตาม ภ.พ.30 อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก

        1. กิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งบางกิจกรรมให้รับรู้รายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ต้องรับรู้ หรือในทางตรงกันข้ามบางกิจกรรมไม่ต้องรับรู้รายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มต้องรับรู้

            1.1 กิจกรรมที่ต้องรับรู้รายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ต้องรับรู้ อาทิ

                  (1) รายได้ดอกเบี้ย

                  (2) กำไรจากการขายหลักทรัพย์

                  (3) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

                  (4) รายได้ที่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอื่นๆ เช่น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์

                  (5) รายได้ที่ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหลาย (Out of VAT Scope) เช่น

                       (ก) รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ จากการส่งเสริมการขาย (ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545 ประกอบ) เช่น ค่าแรกเข้า (Entrance Fee) เงินอุดหนุนช่วยเหลือ เงินให้เปล่า เงินช่วยค่าใช้จ่าย ส่วนลดพิเศษ

                       (ข) ค่าปรับเนื่องจากผิดสัญญา

                       (ค) ค่าสินไหมทดแทน

                       (ง) เงินบริจาค หรือจากการให้โดยเสน่หา

                       (จ) รายได้จากการขายทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

                       (ฉ) รายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ (Out - Out)

                  (6) รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

                  (7) รายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการที่รับรู้รายได้ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มจากการรับล่วงหน้าแล้ว

                  (8) รายได้ค่าบริการค้างรับ

            1.2 กิจกรรมที่ไม่ต้องรับรู้รายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มต้องรับรู้ อาทิ

                  (1) รายได้รับล่วงหน้าจากการขายสินค้าหรือการให้บริการ

                  (2) รายได้ค่าบริการค้างรับที่ได้รับชำระหนี้ในภายหลัง

                  (3) เงินมัดจำค่าบริการ

                  (4) การจำหน่าย จ่าย โอนทรัพย์สินหรือสินค้า ที่เข้าลักษณะเป็นการขายในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ถือเป็นรายจ่ายในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล เช่น

                       (ก) แจกทองให้พนักงาน หรือลูกค้า

                       (ข) การแจกรางวัลจากการประกวด แข่งขัน ชิงโชค

                       (ค) การแถมสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อ 1 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) กล่าวคือ เป็นการแถมต่างหาก หรือแถมตามเงื่อนไข หรือมูลค่าของของแถมเกินมูลค่าสินค้าที่ขายหรือบริการที่ให้

                       (ง) การให้ยูนิฟอร์มพนักงานเกินกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

                  (5) การแถมบริการ

          2. ความแตกต่างเนื่องจากจำนวนรายได้ที่ต้องรับรู้

             2.1 รายได้จากการขายทรัพย์สิน ซึ่งในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล กำหนดให้รับรู้เฉพาะส่วนที่เป็นกำไรหรือขาดทุนเท่านั้น แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มต้องรับรู้จากยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ

             2.2 การส่งออกสินค้าในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล กำหนดให้รับรู้ตามเงื่อนไข Incoterm ที่แตกต่างกันไปตามข้อเท็จจริง เช่น Exworks FOB/CIF DDP แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม กำหนดให้รับรู้เฉพาะราคา FOB ตามมาตรา 79/1 (1) แหงประมวลรัษฎากร เท่านั้น

             2.3 กรณีรายได้จากให้บริการ ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล กำหนดให้รับรู้ตามจำนวนที่ตกลงกัน แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่ม กำหนดให้รับรู้เฉพาะมูลค่าที่ได้รับชำระราคาเท่านั้น

         3. ความแตกต่างเนื่องจากกำหนดเวลาในการรับรู้

             3.1 การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศโดยเรือเดินทะเล ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคลกำหนดให้รับรู้ตาม Incoterm แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มกำหนดให้รับรู้ตามมาตรา 78 (4) แห่งประมวลรัษฎากร กล่าวคือ เมื่อมีการออกใบขนสินค้าขาออก (Status 0209)

             3.2 อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย เนื่องจากจุดที่เกิดความรับผิดในทางภาษีมูลค่าเพิ่มแตกต่างไปจากจุดที่เกิดรายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล

             3.3 รายได้จากการให้บริการเป็นเงินเชื่อ ซึ่งในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล กำหนดให้รับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิ กล่าวคือ เมื่อการให้บริการเสร็จสิ้น แต่ในทางภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถเลือกรับรู้ตามเกณฑ์รับชำระ (เกณฑ์เงินสด) ก็ได้ 

         การกระทบยอดรายได้ตามแบบ ภ.ง.ด.50 ให้เป็นไปตามรายได้ตามแบบ ภ.พ.30 

         1. ให้นำรายได้ตามแบบ ภ.ง.ด.50 มาตั้งต้น 

         2. นำรายการรายได้ที่ทำให้รับรู้รายได้ต่ำกว่ารายได้ตามแบบ ภ.พ.30 มาบวกเพิ่ม และ

         3. นำรายการรายได้ที่ทำให้รับรู้รายได้สูงกว่ารายได้ตามแบบ ภ.พ.30 มาหักออก