ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีสำหรับ SMEs

บทความวันที่ 15 ส.ค. 2559  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 10943 ครั้ง

ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีสำหรับ SMEs


       สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ ที่มีคุณสมบัติครบทั้งสามประการ คือ ประการแรก เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งไม่เคยมีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีใดเกิน ล้านบาทและไม่มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีใดเกิน 30  ล้านบาท นับแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี 2555 เป็นต้นมา ประการที่สอง ได้จดแจ้งเป็นผู้ประกอบการตามพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 และประการที่สาม ไม่ถูกเพิกถอนการได้รับยกเว้นตามพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 นั้น ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2559 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558  

แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว หรือที่นิยมเรียกว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยังคงมีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี หรือภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากมีรอบระยะเวลาบัญชีระหว่างวันที่ มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2559

ตามแบบ ภ.ง.ด.51 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2559 นี้ อธิบดีกรมสรรพากรได้ออกแบบให้กิจการSMEs ใช้แบบเดียวกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป โดยได้เพิ่มคำอธิบายวิธีการกรอกแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ภ.ง.ด.51 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 ในรายการที่ วิธีการคำนวณฐานภาษี ของข้อ 1. กรณีเสียภาษีจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิ ตามมาตรา 67 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร ในรายการ (5) ซึ่งเป็นรายการ “หัก ประมาณการกำไรสุทธิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย” ว่า ให้กรอกจำนวนเงินประมาณการกำไรสุทธิ (ถ้ามี) ที่ได้รับจากการประกอบกิจการที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย เช่น ...บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับสิทธิในการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558

ดังนั้น เมื่อปรากฏประมาณการกำไรสุทธิ หลังจากหักรายการขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี ก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปัจจุบันเป็นจำนวนเท่าใดให้หักด้วยจำนวนเงินประมาณการกำไรสุทธิ (ถ้ามี) ที่ได้รับจากการประกอบกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับสิทธิในการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558 เป็นผลให้กิจการ SMEs ไม่มีประมาณการกำไรสุทธิเหลือที่จะคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลต่อไปแต่อย่างใด

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับสิทธิในการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้จดแจ้งเป็นผู้ประกอบการตามพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 และเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลต่อไปตามปกติ